ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 10 เมษายน …

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 10 เมษายน 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 10 เมษายน 2566

การเมือง/มั่นคง

เลขาธิการ กกต. ขอโทษประชาชนที่ระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามีปัญหา

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีเกิดปัญหาในระบบการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ระบบล่ม ว่า ต้องขอโทษประชาชนที่อาจเกิดจากปัญหาระบบหน่วงตั้งแต่ 21.00 น เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยปกติแล้วระบบสามารถรองรับผู้ใช้งานได้ 4,000 คนต่อ 1 วินาที แต่เมื่อคืนอาจจะมากกว่านั้นจึงทำให้เกิดปัญหา ซึ่งสำนักทะเบียนพยายามแก้ไข ทั้งนี้หากมีผู้ที่ลงทะเบียนแล้วค้างอยู่ในระบบให้แจ้งว่า ได้มีการลงเลือกตั้งพื้นที่ใด เนื่องจากการลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ายังไม่สมบูรณ์จะมีการอำนวยความสะดวกให้ เพื่อดูแลไม่ให้เสียสิทธิ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ กกต. ยังขอแก้ไขและไม่สามารถตอบได้ว่าจะขยายเวลาลงทะเบียนหรือไม่

เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ตัวเลขการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตและนอกราชอาณาจักร ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ลงทะเบียนมาแล้วกว่า 2,400,000 คน และยังกรอกรายละเอียดลงในระบบไม่ครบคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ลงทะเบียนจะใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 ที่มีผู้ลงทะเบียนกว่า 2,600,000 คน พร้อมคาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 80

เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว

กรมการค้าภายใน ร่วมกับแม็คโคร-โลตัส ช่วยชาวสวนไทย สร้างเม็ดเงินสู่เกษตรกรกว่า 2,200 ล้านบาท

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกรมการค้าภายใน ร่วมกับแม็คโครและโลตัส ว่า แม็คโคร-โลตัส ได้ขานรับนโยบาย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้นับว่าเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญของธุรกิจเพื่อช่วยเกษตรกรไทยระบายผลผลิตสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะทำให้ประชาชนคนไทยได้บริโภคผลไม้คุณภาพดีแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่เกษตรกรอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนผลผลิตจากเกษตรกร ช่วงฤดูกาลผลไม้ออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง เงาะ ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ทุเรียน ลองกอง สละ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการรับซื้อรวมกันกว่า 54 ล้านกิโลกรัม หรือ 54,000 ตัน กระจายผ่านสาขาของแม็คโครและโลตัส กว่า 2,800 แห่งทั่วไทย รวมถึงช่องทางออนไลน์ โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 2,200 ล้านบาท เช่นเดียวกับในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว จะมีเงินสะพัดกว่า 1.25 แสนล้านบาท

เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม

เข้มงวดกับปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เอาผิดกับผู้ที่เผาในที่โล่ง พื้นที่ป่าสงวน บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยว่าต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ถึงแม้กรมควบคุมมลพิษมีมาตรการและแผนในระยะยาว รณรงค์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการใช้ดีเซล ซึ่งเป็นต้นต่อที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 ก็ตาม

แต่ที่ผ่านมายังมีปัญหาการเผาในที่โล่งและพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำความผิดและใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการควบคุมดูแลการปล่อยควันพิษของโรงงานอุตสาหกรรมและดูแลบริเวณจุดก่อสร้าง

พลเอก อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละจังหวัดอาจขอความร่วมมือประชาชน ให้ work from home เพื่อลดการใช้ยานพาหนะ โดยเชื่อว่าประชาชนทุกคนต้องการอากาศที่สะอาด แต่การบังคับใช้กฎหมาย กับผู้กระทำความผิด ในการเผาหรือการลดการใช้ยานพาหนะ อาจเป็นแค่ปลายทางในการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญที่สุดทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมาก เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้

ปภ. เร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ใน 9 จังหวัด จากเหตุพายุฤดูร้อน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์ หลังจากที่มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-10 เมษายน 2566 ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 283 หลัง ใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ อุดรธานี สกลนคร ชัยภูมิ หนองบัวลำภู ชลบุรี ระยอง และสุราษฎร์ธานี

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม

ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

แจ้งเตือนรับมือพายุฤดูร้อนช่วงสงกรานต์ 14-15 เมษายนนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะได้รับผลกระทบก่อน

นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า สภาพอากาศช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์วันที่ 10-13 เมษายนนี้ ประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศร้อน จากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง จากนั้นในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นปะทะกับอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

สำหรับการตรวจวัดอุณหภูมิสูงสุดของประเทศไทยวานนี้(9 เม.ย.66) อยู่ที่ภาคเหนือ ที่อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 41.6 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล วัดได้ 38.9 องศาเซลเซียส ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

การนำเข้าผลไม้สดเข้ามายังราชอาณาจักรไทย ต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากต้นทาง

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและชาวไทยที่เดินทางเข้าประเทศกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยงที่เดินทางกลับจาก เกาหลี ญี่ปุ่น ที่นิยมซื้อผลไม้สด (พลับ องุ่น) ที่มีราคาถูกกว่าเมืองไทย เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก

?กรมวิชาการเกษตร ขอประชาสัมพันธ์ ไปยังนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ทราบว่า การนำเข้าผลไม้สดเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทย ในทุกช่องทาง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับเข้าประเทศ ระวังในการกระทำดังกล่าว ที่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิด ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงยึดสินค้าเพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช ทั้งนี้จะประสานกับทางการท่าอากาศยานให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน จากการสอบถามพบว่า นักท่องเที่ยวซื้อตามคำแนะนำของไกด์นำเที่ยว จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังไม่กระทำการดังกล่าว เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเงินกับสินค้ากลุ่มนี้ ทั้งนี้กรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการตรวจยึดผักและผลไม้สดที่นักท่องเที่ยวนำติตตัวเข้ามาที่อาคารโดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัว แต่ยึดสิ่งของไว้และทำการแช่เย็นหลังจากทำการตรวจสอบศัตรูพืชเบื้องต้น เพื่อรอส่งทำลาย ด้วยวิธีการเผาด้วยอุณหภูมิสูง เป็นการป้องกันความเสี่ยงศัตรูพืช เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมและระบบนิเวศของประเทศไทย โดยสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร จัดเตรียมจุดทิ้งสิ่งต้องห้าม ในบริเวณสนามบินให้ชัดเจน หลายๆ จุด ให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆ เพื่อที่นักท่องเทียว จะไม่ทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สังคม

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตลอด 7 วัน

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก กทพ. จึงได้ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ จำนวน 5 สายทาง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพุธที่ 12 เมษายน 2566 ถึงเวลา 24.00 น. วันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 รวม 7 วัน ประกอบด้วยทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี)และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี–สุขสวัสดิ์)

ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2566 เวลา 24.00 น. รวม 3 วัน ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่านทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีโดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL)

นอกจากนี้ กทพ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนที่ใช้ทางพิเศษ เดินทางเข้า – ออก กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 จุด แบ่งเป็นด่านฯ ขาออกเมือง ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2566ที่ด่านฯ บางแก้ว 1 ด่านฯ ฉิมพลี ด่านฯ บางปะอิน (ขาออก) เวลา 07.00 น.– 21.00 น. และด่านฯ ขาเข้าเมือง ระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน 2566 ที่ด่านฯ บางนา ด่านฯ จตุโชติ และด่านฯ บางปะอิน (ขาเข้า) เวลา 07.00 น.– 21.00 น.

อย. เตือนประชาชนเลือกน้ำดื่ม น้ำแข็ง อย่างปลอดภัย ช่วงหน้าร้อน

นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อน ประชาชนมีการบริโภคน้ำดื่มและน้ำแข็งเป็นจำนวนมาก หากไม่ระวังบริโภคน้ำแข็งที่ผลิตและเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ เช่น เชื้ออีโคไล แซลโมเนลลา วิบริโอ คอเลอเร่ และสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส ที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษได้

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงแนะนำให้เลือกบริโภคน้ำดื่ม และโดยเฉพาะน้ำแข็ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท สะอาด มีการแสดงฉลากภาษาไทย ระบุรายละเอียดของชื่ออาหาร เลขสารบบอาหารในเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต น้ำหนักสุทธิเป็นกรัมหรือกิโลกรัม วัน เดือน และปีที่ผลิต หรือควรบริโภคก่อน เป็นต้น

โดยเฉพาะฉลากของผลิตภัณฑ์น้ำแข็ง ต้องมีข้อความว่า “น้ำแข็งใช้รับประทานได้” ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงิน สำหรับการเลือกซื้อน้ำแข็งบดหรือน้ำแข็งหลอดที่ตักแบ่งหรือกดจากตู้จำหน่าย หรือเสิร์ฟตามร้านอาหาร ที่ไม่มีฉลากนั้น ผู้บริโภคควรหมั่นสังเกตลักษณะของน้ำแข็งที่จะบริโภคต้องใสสะอาด ไม่มีคราบ สี หรือกลิ่นที่ผิดปกติ ไม่มีฝุ่นผงหรือสิ่งแปลกปลอมในก้อนน้ำแข็ง โดยเลือกซื้อจากแหล่งผลิต และแหล่งจำหน่ายที่ถูกสุขลักษณะ

ทั้งนี้ หาก อย. ตรวจพบผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยจัดเป็นอาหารผิดมาตรฐาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกภาคส่วนร่วมลดอุบัติเหตุทางถนน ลดการสูญเสียช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทาง โดยเฉพาะทางถนน จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน บูรณาการร่วมกันลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำลดการสูญเสีย พร้อมกันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เสียสละทำงานช่วงเทศกาล ให้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ดูแลให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ขับเคลื่อน การดำเนินการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน ผ่านกลไกระดับต่างๆ กำหนดเป้าหมายภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมทั้งกวดขันการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการการแก้ไขปัญหาต่างๆ มีเป้าหมายลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บบนท้องถนนให้เหลือ 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี พ.ศ. 2570 เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ Vision Zero ภายในปี 2593 ขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการลดอัตราจำนวนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมาย ขับขี่รถอย่างมีสติ ไม่ขับรถเร็วเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด เมาไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้ร่วมทาง และร่วมกันสร้างการสัญจรอย่างปลอดภัยของประเทศให้ยั่งยืน

กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมพุทธบูชา มหาสงกรานต์ 9 องค์ เปิดให้ประชาชนสักการะ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เนื่องในประเพณีสงกรานต์ประจำปี 2566 กระทรวงวัฒนธรรมอัญเชิญ “พุทธบูชา มหาสงกรานต์” 9 องค์ มาประดิษฐานชั่วคราว ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้ประชาชนได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ระหว่างวันที่ 12 – 16 เมษายนนี้ ซึ่งพระพุทธรูปมงคลโบราณ 9 องค์อัญเชิญมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย พระพุทธรูปปางถวายเนตร พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร พระพุทธรูปไสยาสน์ พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ พระพุทธสิหิงค์จำลอง พระพุทธรูปปางรำพึง พระพุทธรูปปางนาคปรก และพระเกตุ พระหายโศก ปางสมาธิเพชร โดยจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 12 เมษายน

ภายในงานมีการแสดง ชุด เริงรื่นชื่นสงกรานต์ รำไทยสงกรานต์และการสาธิตน้ำอบน้ำปรุง การทำแป้งพวง และการร้อยมาลัยดอกไม้ นอกจากนี้ ในวันที่ 13 เมษายน ยังร่วมกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เปิดงานเทศกาลสงกรานต์วัดพระเชตุพน มีการสาธิตศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยแชมป์มวยไทย การออกร้านจำหน่ายสินค้าจากเครือข่ายวัฒนธรรม

สำหรับการจัดการจัดกิจกรรมปีนี้ เน้นการรณรงค์สืบสานประเพณีท้องถิ่น ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและประชาสัมพันธ์ประเพณีสงกรานต์ ซึ่งขณะนี้องค์การยูเนสโก ได้รับรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมของไทยสงกรานต์ในประเทศไทย เข้าวาระการพิจารณาการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในเดือนธันวาคมนี้

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว